หน้าเว็บ

วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การนำโพสต์ที่อยู่บน Facebook มาแชร์ไว้ที่เว็บ

วันนี้ Facebook เปิดตัว Embedded Posts ให้ใช้สำหรับทุกๆ คนแล้ว ซึ่งหมายความว่าเราสามารถนำโพสต์จากเพื่อน จากเพจ ที่แชร์แบบสาธารณะมาแปะไว้บนเว็บเช่นเดียวกับ Facebook Badge ได้ แต่หากโพสต์นั้นถูกลบหรือเปลี่ยนค่าเป็นแบบไม่สาธารณะ โพสนั้นก็จะหายไปจากเว็บเช่นกัน



การนำโพสต์สาธารณะของคนอื่นมาโพสต์ที่เว็บ



การนำโพสต์จากเพจมาโพสต์ที่เว็บ
สำหรับ Blogger ให้คลิ๊กที่รูปข้างล่างเพื่อเพิ่ม facebook javascript code ไปยัง template ด้วย


อ่านเพิ่มเติมได้ที่ Facebook เปิดตัว Embedded Posts : Thumbsup.in.th





วันเสาร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การตลาดบน Facebook เบื้องต้น

Facebook  เครื่องมือในการสื่อสารแบบหนึ่งที่มีการกระจายข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ทั้งข่าวในเชิงบวกและข่าวในเชิงลบ การนำ Facebook มาใช้ในการตลาดควรที่จะเข้าใจหลักการทำงานของ Facebook ก่อน

ปัจจุบัน Facebook เป็นเว็บไซต์ที่คนเข้าและใช้เวลากับมันมากที่สุด เพื่อที่จะเข้ามาดูว่าเพื่อนๆ อัพเดทสถานะอะไร ไปไหน ทำอะไร หรือติดข่าวสารจากเพจสินค้าและบริการที่ไปกดไลค์เป็นต้น โดยที่ข้อมูลที่อัพเดทจากแต่ละแหล่งจะถูกนำมาแสดงที่ฟีดข่าว(news feed) ตามหลักของ Edge Rank ซึ่งถ้ามีคนกดไลค์ คอมเม้นท์ ข้อความที่โฟสต์แม้จะโพสต์มานานแล้วก็ยังจะแสดงในหน้าแรกของฟีดข่าวของเรา

ถ้าเปรียบการทำตลาดในหน้าค้นหาของ Google หรือที่เรียกว่า SEO ซึ่งก็คือการปรับแต่งเว็บให้สามารถอยู่ในหน้าแรกของการค้นหาตาม keyword นั้นๆ การโฟสต์ข้อความใน Facebook เพื่อให้คนมากดไลค์ คอมเม้นท์ หรือแชร์ ก็จะทำให้ข้อความที่เราเผยแพร่ออกไปยังคงอยู่ในหน้าแรกของฟีดข่าวของคนอื่นด้วย และหากมีคนส่งต่อหรือแชร์ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งเรียกว่า Go Viral ซึ่งอาจทำให้คนๆ หนึ่งดังได้เพียงข้ามคืน

ข้อดีของการตลาดทาง Facebook ก็คือโพสต์ที่เพื่อนเรามาคลิ๊กไลค์ คอมเมนต์ แชร์ จะไปปรากฏที่หน้าฟีดข่าวของเรา ซึ่งเสมือนเป็นการบอกต่อสินค้าหรือบริการจากเพื่อน ไม่เหมือนการยัดเยียดโฆษณา ซึ่งปัจจุบันคนไม่เชื่อการโฆษณาตรงๆ จากสินค้านั้นๆ แต่จะเชื่อสิ่งที่คนอื่นพูดถึงแบรนด์นั้นๆ ซึ่งการตลาดผ่าน Facebook ต้องหาวิธีว่าทำอย่างไรถึงจะมีคนพูดถึงสินค้าของเราใน Network ของเขา

วันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2556

How to Create a Facebook Timeline Cover Photo with Picasa

สร้าง Facebook Cover ให้กับร้านของคุณแบบง่ายๆ ด้วย Picasa 
  1. เปิดโปรแกรม Picasa แล้วเลือกรูปที่คุณต้องการ
  2. คลิ๊กที่ Collage ท่าด้านล่างของ Picasa
  3. เลือกขนาดที่ต้องการ ซึ่งต้องสร้างขนาดใหม่
  4. เลือก Add Custom Aspect Ratio.. เพื่อสร้างขนาดของ Facebook Cover
  5. ใส่ขนาด 850 x 315 แล้วตั้งชื่อเป็น Facebook Cover
  6. เลือกรูปแบบที่เราต้องการ
  7. คุณสามารถเลือกรูปเพิ่ม นำรูปออก หมุนรูป ย่อขยายขนาดรูป สลับตำแหน่งรูปภาพ แก้ไขรูปภาพ เลือกรูปใดรูปหนึ่งให้เป็นพื้นหลังได้
  8. เมื่อได้รูปแบบที่ต้องการให้คลิ๊ก Create Collage คุณจะได้ Facebook Cover ในแบบของคุณ



เขียนโดย @nuisaran

วันอาทิตย์ที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2556

กด Like แล้วได้อะไร

ปุม "like" ของ facebook คือปุ่มที่วัดการมีส่วนร่วม การรับรู้โดยที่ไม่ต้อง Comment ซึ่งจากสถิติแล้ว คนไทยชอบที่จะกด like มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์แบบไหนก็ตาม ข่าวดี ข่าวร้าย กด like ดะ
ซึ่งก็มีเรื่องมีราวเป็นดราม่าให้ถกกันด้วยเช่นเรื่อง ญาติเสียเพื่อนกดไลค์ ซึ่งจริงๆ ก็ไม่ได้ผิดอะไร เพราะ ปุ่ม like ของ facebook ไม่ได้แปลว่าชอบหรือถูฏใจอย่างเดียว แต่หมายถึงการรับรู้อีกด้วย
จากสถิติการใช้งาน Facebook ในประเทศไทยก็แสดงให้เห็นว่าคนไทยนิยมกด like เพื่อแสดงการรับรู้ ชื่นชอบ เห็นด้วย ฯลฯ เป็นส่วนใหญ่ รองลงมาก็คือการแสดงความคิดเห็นหรือการ Comment การอัพรูปมีการใช้งานมากกว่าการอัพสถานะอย่างเดียวถึง 2 เท่า การส่งข้อความทาง Facebook ก็ยังมากกว่าการอัพเดทสถานะอยู่เล็กน้อย

สรุปก็คือคนไทยชอบกด like ของแสดงความเห็น และอัพรูปมากกว่าข้อความ ดังนั้นก็เลยมีคนใช้โอกาสนี้ในการแชรรูปต่างๆ เพื่อให้คนกด like เช่น รูปคนป่วย คนพิการ คนที่น่าสงสาร โดยมีมุกว่า 
  1. กด like เพื่อเป็นกำลังใจ หรือได้เงิน
  2. Comment เพื่อ ...
  3. แชร์เพื่อ ...
แล้วแต่มุกที่เขาจะเอามา Post เพื่อทำให้ Page ของเขาได้รับการแบ่งปันไปใน Timeline ของเราแบบฟรีๆ ซึ่งทำให้เกิดกระแส Viral 

ผมเบื่อมากกับมุกแย่ๆ พวกนี้ก็เลยรวบรวม มุกกด like ต่างๆ ไว้ที่ Storify ซึ่งสามารถคลิ๊กลิงกค์ไปดูได้ครับ 

เขียนโดย @nuisaran